EP 2 : KNOW.. LIKE.. TRUST... (การทำธุรกิจก็ไม่ต่างอะไรจากการจีบสาว)
EP 2 : KNOW.. LIKE.. TRUST...
(การทำธุรกิจก็ไม่ต่างอะไรจากการจีบสาว)
จาก Blog ที่แล้วผมพูดถึงการทำธุรกิจก็ไม่ต่างอะไรจากการจึบสาว
วันนี้เรามาขยายความกันทีละเปราะดูนะครับ ว่ามันเหมือนกันขนาดไหน
เราอาจจะมี SPEC หรือไม่มี SPEC ของสาวในฝันของเราก็ได้ แต่ที่สำคัญคือ ที่ที่เราจะมีโอกาสเจอเธอเหล่านั้น คือที่ไหนต่างหาก.. เช่นถ้าคุณชอบผู้หญิงเก่ง คุณอาจจะได้เจอกับเธอในที่ทำงาน ในการติดต่องาน เธออาจจะเป็นลูกค้า เป็นคู่ค้า เป็น Suppliers หรืออาจจะเป็นเลขาของลูกค้าคุณก็มีโอกาสเป็นไปได้ทั้งหมด
นั่นหมายความว่า คุณต้องรู้ว่า "เธอมีโอกาสจะอยู่ที่ไหน??"
และเมื่อรู้แล้วว่าคุณจะมีโอกาสเจอเธอที่ไหน คุณก็ต้องทำตัวเองให้ไปอยู่ในที่นั้นๆ หรือใกล้ๆ ที่นั้นๆ มากที่สุดเพื่อที่จะ "มีโอกาส" ได้เจอเธอนั่นเอง
และเมื่อเจอเธอแล้ว คุณจะทำอย่างไรต่อล่ะ??
*** ในทางธุรกิจก็เช่นกัน คุณต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าของคุณเป็นใคร และอยู่ที่ไหน คุณควรต้องวิเคราะห์ Customer journey ให้ดีเพื่อที่คุณจะได้ลูกค้าที่ตรงกลุ่ม และงานคุณก็จะง่ายขึ้น เพราะโอกาสสำเร็จมีสูงกว่าการที่คุณไม่ได้วางแผนเพื่อที่จะได้พบลูกค้าตัวจริงของคุณ ***
1. KNOW - ทำความรู้จักเธอให้ได้
และเมื่อเจอเธอแล้ว สิ่งที่คุณมักจะทำต่อมาก็คือ คุณจะแวะเวียนไปที่นั่นบ่อยๆ ทำให้เธอเห็นบ่อยๆ เพื่อสร้างความสนใจแรกให้เธอหันมามองคุณให้ได้
แล้วยังไงต่อล่ะ... คุณก็จะสร้างจุดสนใจให้คุณดูโดดเด่นขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแต่งกาย เสื้้อผ้า หน้า ผม เครื่องประดับ น้ำหอม รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ สารพัดที่คุณจะสรรหามา แม้กระทั่งการพูดจา การแสดงความสามารถในการทำงาน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับเธอ..
และเมื่อโอกาสมาถึง คุณต้องเผชิญนหน้ากับเธอแล้ว
สิ่งหนึ่งที่เป็นเป้าหมายหลักของคุณคือ ต้องทำความรู้จักเธอให้มากกว่านี้ให้ได้
คุณก็จะเริ่มพูดคุยกับเธอด้วยความระมัดระวัง ต้องไม่มีอะไรที่ผิดพลาดแสดงให้เธอเห็นโดยเด็ดขาด
ระหว่างที่คุยกันนั้น คุณมักจะคุยเรื่องของเธอเป็นส่วนใหญ่
จนบางครั้งเธอก็จะถามคุณว่า แล้วคุณจะไม่เล่าเรื่องของคุณบ้างเหรอ??
นั่นคือโอกาสแรกที่คุณจะได้แสดงความเป็นตัวตนของคุณให้เธอเห็น ซึ่งแน่นอนว่า "มีแต่ด้านดีทั้งนั้น" 5555
เมื่อรู้จักกันพอหอมปาก หอมคอ และคุณรู้สึกว่า อยากคุยกับเธอต่อจังเลย
แม้จะมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะได้คุยกับเธอ คุณก็รู้สึกดีแล้ว
คุณจึงเริ่ม "ขอเบอร์ติดต่อ" เพื่อสานต่อความสัมพันธ์
อาจจะอ้างเรื่องงาน หรือเรื่อง lifestyle หรือเรื่องอื่นๆ จากบทสนทนาก่อนหน้านี้ของคุณกับเธอก็ตาม
นั่นแปลว่าคุณสำเร็จในขั้นที่ 1 (KNOW) เรียบร้อยแล้ว
*** ในทางธุรกิจก็เช่นกัน คุณต้องทำ Profile ของคุณให้พร้อมก่อน คุณต้องคิดหา Gimmick หรือ Content ที่จะทำให้เกิดแรงดึงดูดให้ลูกค้าเกิดความสนใจใน Product ของคุณ แล้วก็ทำให้ลูกค้าของคุณเห็นคุณบ่อยๆ (ตามสถิติทั่วไปคือ 5-10 ครั้งจึงจะเกิดการติดต่อเกิดขึ้น) และเมื่อใดที่ลูกค้าติดต่อคุณเข้ามาแล้ว (รู้จักกันแล้ว) คุณต้องนำเสนอตัวเอง (Branding) เพื่อที่จะให้ลูกค้าทราบว่าคุณจะช่วยแก้ปัญหาอะไรลูกค้าได้บ้าง โดยการแลกเบอร์ หรือ Contact อื่นๆ ที่สามารถติดต่อกันได้ ***
2. LIKE - ทำให้เธอชอบคุณให้ได้
คุณอาจจะเคยได้ยินคำว่า "ชอบคุยกับคุณจังเลย คุยแล้วรู้สึกสบายใจดี"
นั่นคือสัญญาณที่ทำให้คุณรู้ว่า เธอชอบคุณเข้าแล้ว
ในส่วนนี้ คุณอาจจะต้องใช้ประสบการณ์ของคุณอีกสักหน่อย เพื่อที่จะทำให้เธอชอบคุณ
วิธีที่คนทั่วไปใช้ก็คือ พูดคุยเรื่องของเธอ พยายามทำตัวเป็นฮีโร่ เสนอตัวช่วยเหลือเธอในทุกเรื่อง เรื่องงาน เรื่องทางบ้าน เรื่องส่วนตัว เรืื่องความรัก เรื่องสถานที่ท่องเที่ยว และอีกสารพัดเรื่องที่เธอกำลังรู้สึกเป็นปัญหาอยู่ อย่างน้อยหากไม่ได้ช่วยเธอโดยตรง แต่หาทางแก้ไขปัญหาให้เธอได้ ก็ถือว่าดีแล้ว
แล้วเธอจะรู้สึกว่า "คุณมีดีกว่าที่เธอคิดซะอีก เธอจะรู้สึกแปลกใจเพราะไม่คิดว่าคุณจะช่วยเธอได้"
เธอจะเริ่มรู้สึกดีกับคุณ เธอจะอนุญาตให้คุณเข้าใกล้เธอได้ทีละน้อย จนบางครั้งเธออาจจะเผลอแตะตัวคุณโดยที่เธอไม่รู้ตัวก็เป็นได้ (มันคือสัญชาตญาณในการแสดงออกถึงความปลอดภัย)
*** ในทางธุรกิิจ มันคือการช่วยเหลือลูกค้าแก้ปัญหาในขั้นต้น โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เลย
(เพราะคุณทำด้วยความเต็มใจ) เช่น ช่วยติดต่อกับดาราคนที่เจ้านายของลูกค้าอยากจะเชิญมาเป็น Presenter แต่ไม่รู้จะติดต่อทางไหน อย่างไร แต่คุณสามารถใช้ Connection ติดต่อให้ได้ โดยอาจจะต้องจ่ายเงินเพียงเล็กน้อยให้กับ Connection ของคุณ ลูกค้าจะรู้สึกประหลาดใจ และยอมจ่ายเพื่อให้ได้งานที่ตัวเองได้รับมอบหมาย แต่ยังทำไม่สำเร็จ
ลูกค้าจะเชื่อมั่นในตัวคุณมากขึ้น และเขาจะยอมจ่ายเงินให้คุณโดยไม่มีอิดออดเลยแม้แต่น้อย
มันคือการนำเสนอ Primary Product นั่นเอง ซึ่ง Primary Product เป็น Product ที่ให้คุณค่า และช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าของคุณได้ ***
3. TRUST - สร้างความเชื่อมั่นใหักับเธอให้ได้
ต่อเนื่องมาจากข้อ 2. หากเรื่องที่เธอคิดว่าเป็นปััญหาใหญ่ของเธอ แต่คุณกับช่วยเธอได้ โดยใช้แค่เพียง Connection หรือช่องทางเพียงหนึ่งช่องทางของคุณเท่านั้นเอง นั่นหมายความว่า คุณมีน่าจะมีศักยภาพที่มากกว่านั้นอย่างแน่นอน และหากเกิดปัญหากับเธออีก คนแรกที่เธอจะคิดถึงก็คือ "คุณ" นั่นเอง
ซึ่งคุณก็จะไม่ปล่อยโอกาสทำคะแนนให้หลุดลอยไปไหน คุณก็จะช่วยเธออย่างสุดความสามารถจนกระทั่งเธอผ่านอุปสรรคปัญหาต่างๆ ไปได้ในทุกๆ ครั้ง
เธอจะเริ่มไว้วางใจคุณ และเชื่อมั่นในตัวคุณ เธอจะมีความรู้สึกถึง "ความเป็นผู้นำ" ในตัวคุณโดยธรรมชาติ
และตอนนี้เธอก็สามารถที่จะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับคุณ หรือที่ไหนๆ กับคุณได้อย่างไม่กังวลใจใดๆ เลย เพราะเธอเกิดความเชื่อถือ และศรัทธาในตัวคุณอย่างมากแล้ว
และความสัมพันธ์นี้มันก็จะเป็นรากฐานที่จะทำให้เธออาจจะคิดถึงการที่มีคุณเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอก็เป็นไปได้
*** หลักการเดียวกัน เมื่อคุณได้ Contact ลูกค้ามาแล้ว คุณนำเสนอวิธีแก้ปัญหา และช่วยลูกค้าแก้ปัญหาได้ในทุกๆ เรื่อง คุณสร้างภาวะผู้นำให้กับลูกค้าได้เห็น ได้สัมผัสโดยไม่รู้ตัว ลูกค้าจะมีประสบการณ์ในการทำธุรกิิจที่ดีขึ้น เมื่อเห็นปัญหาต่างๆ เหล่านี้อีกครั้ง เขาจะนึกถึงคุณทันที หรือมีใครที่มีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ในเรื่องที่คล้ายๆ กััน หรือใกล้เคึยงกัน เขาจะเริ่มแนะนำ หรือบอกต่อเรื่องราวของคุณให้กับผู้คนของเขา คนแล้ว คนเล่า
ซึ่งถ้าวันหนึ่งคุณชวนเขาทำธุรกิจอะไรบางอย่าง หรือนำเสนอสินค้าหรือบริการอะไรบางอย่าง เชื่อเถอะว่า ร้อยทั้งร้อย เขาจะทำธุรกิจร่วมกับคุณ หรือซื้อสินค้า และใช้บริการคุณอย่างแน่นอน ***
และนี่คือแนวทาง หรือปรัชญาในการทำธุรกิจที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด
ขึ้นอยู่กับว่าคุณเข้าใจธรรมชาติมากแค่ไหนมากกว่า
วันนี้คุณทำธุรกิจอย่างไร??
ทำแบบตะโกนว่า "ฉันมีสินค้าดีที่สุด.. ไม่เหมือนใคร.. ใครสนใจก็มาซื้อได้ที่ฉันนะ" ใช่หรือป่าว??
มันเหมือนกับการที่อยู่ดีๆ คุณก็ประกาศว่า "ผมหล่อนะครับ ผมเป็นคนดีนะครับ ใครอยากแต่งงานกับผมบ้าง??"
คุณคิดว่าจะมีใครอยากแต่งงานกับคุณบ้างมั๊ยครับ?? หรืออาจจะมี แต่จะมีกี่คนครับ??
ลองนำปรัชญา KNOW / LIKE / TRUST ไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณดูนะครับ
แล้วคุณจะพบว่ามันเป็นธรรมชาติจริงๆ บางที มันอาจจะรอนานสักหน่อย แต่ก็เป็นการรอคอยที่คุ้มค่าแน่นอนครับ
(การทำธุรกิจก็ไม่ต่างอะไรจากการจีบสาว)
จาก Blog ที่แล้วผมพูดถึงการทำธุรกิจก็ไม่ต่างอะไรจากการจึบสาว
วันนี้เรามาขยายความกันทีละเปราะดูนะครับ ว่ามันเหมือนกันขนาดไหน
เราอาจจะมี SPEC หรือไม่มี SPEC ของสาวในฝันของเราก็ได้ แต่ที่สำคัญคือ ที่ที่เราจะมีโอกาสเจอเธอเหล่านั้น คือที่ไหนต่างหาก.. เช่นถ้าคุณชอบผู้หญิงเก่ง คุณอาจจะได้เจอกับเธอในที่ทำงาน ในการติดต่องาน เธออาจจะเป็นลูกค้า เป็นคู่ค้า เป็น Suppliers หรืออาจจะเป็นเลขาของลูกค้าคุณก็มีโอกาสเป็นไปได้ทั้งหมด
นั่นหมายความว่า คุณต้องรู้ว่า "เธอมีโอกาสจะอยู่ที่ไหน??"
และเมื่อรู้แล้วว่าคุณจะมีโอกาสเจอเธอที่ไหน คุณก็ต้องทำตัวเองให้ไปอยู่ในที่นั้นๆ หรือใกล้ๆ ที่นั้นๆ มากที่สุดเพื่อที่จะ "มีโอกาส" ได้เจอเธอนั่นเอง
และเมื่อเจอเธอแล้ว คุณจะทำอย่างไรต่อล่ะ??
*** ในทางธุรกิจก็เช่นกัน คุณต้องรู้ก่อนว่าลูกค้าของคุณเป็นใคร และอยู่ที่ไหน คุณควรต้องวิเคราะห์ Customer journey ให้ดีเพื่อที่คุณจะได้ลูกค้าที่ตรงกลุ่ม และงานคุณก็จะง่ายขึ้น เพราะโอกาสสำเร็จมีสูงกว่าการที่คุณไม่ได้วางแผนเพื่อที่จะได้พบลูกค้าตัวจริงของคุณ ***
1. KNOW - ทำความรู้จักเธอให้ได้
และเมื่อเจอเธอแล้ว สิ่งที่คุณมักจะทำต่อมาก็คือ คุณจะแวะเวียนไปที่นั่นบ่อยๆ ทำให้เธอเห็นบ่อยๆ เพื่อสร้างความสนใจแรกให้เธอหันมามองคุณให้ได้
แล้วยังไงต่อล่ะ... คุณก็จะสร้างจุดสนใจให้คุณดูโดดเด่นขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการแต่งกาย เสื้้อผ้า หน้า ผม เครื่องประดับ น้ำหอม รองเท้า กระเป๋า ฯลฯ สารพัดที่คุณจะสรรหามา แม้กระทั่งการพูดจา การแสดงความสามารถในการทำงาน เพื่อสร้างความประทับใจให้กับเธอ..
และเมื่อโอกาสมาถึง คุณต้องเผชิญนหน้ากับเธอแล้ว
สิ่งหนึ่งที่เป็นเป้าหมายหลักของคุณคือ ต้องทำความรู้จักเธอให้มากกว่านี้ให้ได้
คุณก็จะเริ่มพูดคุยกับเธอด้วยความระมัดระวัง ต้องไม่มีอะไรที่ผิดพลาดแสดงให้เธอเห็นโดยเด็ดขาด
ระหว่างที่คุยกันนั้น คุณมักจะคุยเรื่องของเธอเป็นส่วนใหญ่
จนบางครั้งเธอก็จะถามคุณว่า แล้วคุณจะไม่เล่าเรื่องของคุณบ้างเหรอ??
นั่นคือโอกาสแรกที่คุณจะได้แสดงความเป็นตัวตนของคุณให้เธอเห็น ซึ่งแน่นอนว่า "มีแต่ด้านดีทั้งนั้น" 5555
เมื่อรู้จักกันพอหอมปาก หอมคอ และคุณรู้สึกว่า อยากคุยกับเธอต่อจังเลย
แม้จะมีโอกาสเพียงเล็กน้อยที่จะได้คุยกับเธอ คุณก็รู้สึกดีแล้ว
คุณจึงเริ่ม "ขอเบอร์ติดต่อ" เพื่อสานต่อความสัมพันธ์
อาจจะอ้างเรื่องงาน หรือเรื่อง lifestyle หรือเรื่องอื่นๆ จากบทสนทนาก่อนหน้านี้ของคุณกับเธอก็ตาม
นั่นแปลว่าคุณสำเร็จในขั้นที่ 1 (KNOW) เรียบร้อยแล้ว
*** ในทางธุรกิจก็เช่นกัน คุณต้องทำ Profile ของคุณให้พร้อมก่อน คุณต้องคิดหา Gimmick หรือ Content ที่จะทำให้เกิดแรงดึงดูดให้ลูกค้าเกิดความสนใจใน Product ของคุณ แล้วก็ทำให้ลูกค้าของคุณเห็นคุณบ่อยๆ (ตามสถิติทั่วไปคือ 5-10 ครั้งจึงจะเกิดการติดต่อเกิดขึ้น) และเมื่อใดที่ลูกค้าติดต่อคุณเข้ามาแล้ว (รู้จักกันแล้ว) คุณต้องนำเสนอตัวเอง (Branding) เพื่อที่จะให้ลูกค้าทราบว่าคุณจะช่วยแก้ปัญหาอะไรลูกค้าได้บ้าง โดยการแลกเบอร์ หรือ Contact อื่นๆ ที่สามารถติดต่อกันได้ ***
2. LIKE - ทำให้เธอชอบคุณให้ได้
คุณอาจจะเคยได้ยินคำว่า "ชอบคุยกับคุณจังเลย คุยแล้วรู้สึกสบายใจดี"
นั่นคือสัญญาณที่ทำให้คุณรู้ว่า เธอชอบคุณเข้าแล้ว
ในส่วนนี้ คุณอาจจะต้องใช้ประสบการณ์ของคุณอีกสักหน่อย เพื่อที่จะทำให้เธอชอบคุณ
วิธีที่คนทั่วไปใช้ก็คือ พูดคุยเรื่องของเธอ พยายามทำตัวเป็นฮีโร่ เสนอตัวช่วยเหลือเธอในทุกเรื่อง เรื่องงาน เรื่องทางบ้าน เรื่องส่วนตัว เรืื่องความรัก เรื่องสถานที่ท่องเที่ยว และอีกสารพัดเรื่องที่เธอกำลังรู้สึกเป็นปัญหาอยู่ อย่างน้อยหากไม่ได้ช่วยเธอโดยตรง แต่หาทางแก้ไขปัญหาให้เธอได้ ก็ถือว่าดีแล้ว
แล้วเธอจะรู้สึกว่า "คุณมีดีกว่าที่เธอคิดซะอีก เธอจะรู้สึกแปลกใจเพราะไม่คิดว่าคุณจะช่วยเธอได้"
เธอจะเริ่มรู้สึกดีกับคุณ เธอจะอนุญาตให้คุณเข้าใกล้เธอได้ทีละน้อย จนบางครั้งเธออาจจะเผลอแตะตัวคุณโดยที่เธอไม่รู้ตัวก็เป็นได้ (มันคือสัญชาตญาณในการแสดงออกถึงความปลอดภัย)
*** ในทางธุรกิิจ มันคือการช่วยเหลือลูกค้าแก้ปัญหาในขั้นต้น โดยไม่ได้หวังผลตอบแทนใดๆ เลย
(เพราะคุณทำด้วยความเต็มใจ) เช่น ช่วยติดต่อกับดาราคนที่เจ้านายของลูกค้าอยากจะเชิญมาเป็น Presenter แต่ไม่รู้จะติดต่อทางไหน อย่างไร แต่คุณสามารถใช้ Connection ติดต่อให้ได้ โดยอาจจะต้องจ่ายเงินเพียงเล็กน้อยให้กับ Connection ของคุณ ลูกค้าจะรู้สึกประหลาดใจ และยอมจ่ายเพื่อให้ได้งานที่ตัวเองได้รับมอบหมาย แต่ยังทำไม่สำเร็จ
ลูกค้าจะเชื่อมั่นในตัวคุณมากขึ้น และเขาจะยอมจ่ายเงินให้คุณโดยไม่มีอิดออดเลยแม้แต่น้อย
มันคือการนำเสนอ Primary Product นั่นเอง ซึ่ง Primary Product เป็น Product ที่ให้คุณค่า และช่วยแก้ปัญหาให้กับลูกค้าของคุณได้ ***
3. TRUST - สร้างความเชื่อมั่นใหักับเธอให้ได้
ต่อเนื่องมาจากข้อ 2. หากเรื่องที่เธอคิดว่าเป็นปััญหาใหญ่ของเธอ แต่คุณกับช่วยเธอได้ โดยใช้แค่เพียง Connection หรือช่องทางเพียงหนึ่งช่องทางของคุณเท่านั้นเอง นั่นหมายความว่า คุณมีน่าจะมีศักยภาพที่มากกว่านั้นอย่างแน่นอน และหากเกิดปัญหากับเธออีก คนแรกที่เธอจะคิดถึงก็คือ "คุณ" นั่นเอง
ซึ่งคุณก็จะไม่ปล่อยโอกาสทำคะแนนให้หลุดลอยไปไหน คุณก็จะช่วยเธออย่างสุดความสามารถจนกระทั่งเธอผ่านอุปสรรคปัญหาต่างๆ ไปได้ในทุกๆ ครั้ง
เธอจะเริ่มไว้วางใจคุณ และเชื่อมั่นในตัวคุณ เธอจะมีความรู้สึกถึง "ความเป็นผู้นำ" ในตัวคุณโดยธรรมชาติ
และตอนนี้เธอก็สามารถที่จะไปเที่ยวต่างจังหวัดกับคุณ หรือที่ไหนๆ กับคุณได้อย่างไม่กังวลใจใดๆ เลย เพราะเธอเกิดความเชื่อถือ และศรัทธาในตัวคุณอย่างมากแล้ว
และความสัมพันธ์นี้มันก็จะเป็นรากฐานที่จะทำให้เธออาจจะคิดถึงการที่มีคุณเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเธอก็เป็นไปได้
*** หลักการเดียวกัน เมื่อคุณได้ Contact ลูกค้ามาแล้ว คุณนำเสนอวิธีแก้ปัญหา และช่วยลูกค้าแก้ปัญหาได้ในทุกๆ เรื่อง คุณสร้างภาวะผู้นำให้กับลูกค้าได้เห็น ได้สัมผัสโดยไม่รู้ตัว ลูกค้าจะมีประสบการณ์ในการทำธุรกิิจที่ดีขึ้น เมื่อเห็นปัญหาต่างๆ เหล่านี้อีกครั้ง เขาจะนึกถึงคุณทันที หรือมีใครที่มีปัญหาที่ไม่สามารถแก้ได้ในเรื่องที่คล้ายๆ กััน หรือใกล้เคึยงกัน เขาจะเริ่มแนะนำ หรือบอกต่อเรื่องราวของคุณให้กับผู้คนของเขา คนแล้ว คนเล่า
ซึ่งถ้าวันหนึ่งคุณชวนเขาทำธุรกิจอะไรบางอย่าง หรือนำเสนอสินค้าหรือบริการอะไรบางอย่าง เชื่อเถอะว่า ร้อยทั้งร้อย เขาจะทำธุรกิจร่วมกับคุณ หรือซื้อสินค้า และใช้บริการคุณอย่างแน่นอน ***
และนี่คือแนวทาง หรือปรัชญาในการทำธุรกิจที่เป็นธรรมชาติมากที่สุด
ขึ้นอยู่กับว่าคุณเข้าใจธรรมชาติมากแค่ไหนมากกว่า
วันนี้คุณทำธุรกิจอย่างไร??
ทำแบบตะโกนว่า "ฉันมีสินค้าดีที่สุด.. ไม่เหมือนใคร.. ใครสนใจก็มาซื้อได้ที่ฉันนะ" ใช่หรือป่าว??
มันเหมือนกับการที่อยู่ดีๆ คุณก็ประกาศว่า "ผมหล่อนะครับ ผมเป็นคนดีนะครับ ใครอยากแต่งงานกับผมบ้าง??"
คุณคิดว่าจะมีใครอยากแต่งงานกับคุณบ้างมั๊ยครับ?? หรืออาจจะมี แต่จะมีกี่คนครับ??
ลองนำปรัชญา KNOW / LIKE / TRUST ไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณดูนะครับ
แล้วคุณจะพบว่ามันเป็นธรรมชาติจริงๆ บางที มันอาจจะรอนานสักหน่อย แต่ก็เป็นการรอคอยที่คุ้มค่าแน่นอนครับ
ติดตามบทความดีๆ ในเรื่องการทำตลาดบนโลกออนไลน์ได้ที่นี่
ผมจะทยอยส่งบทความเรื่องที่เกี่ยวกับ network marketing หรือ Home Base Business
เพื่อที่จะสร้าง Runway ไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของท่านเรื่อยๆ นะครับ
อีกไม่นาน ผมจะย้าย Website ไปสู่ Website ใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมเร็วๆ นี้นะครับ
เพื่อที่จะสร้าง Runway ไปสู่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ของท่านเรื่อยๆ นะครับ
อีกไม่นาน ผมจะย้าย Website ไปสู่ Website ใหม่ที่ดีขึ้นกว่าเดิมเร็วๆ นี้นะครับ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น