ทำไมการเข้าใจ "คน" จึงสำคัญมากเหลือเกินในความสำเร็จของชีวิตเราทุกๆคน

ผมได้เรียนรู้จากนักการตลาดระดับประเทศท่านหนึ่ง ซึ่งท่านมีผลลัพธ์ในธุรกิจเครือข่าย และธุรกิจออนไลน์อย่างมหาศาล และเป็นเพียงท่านเดียวที่สอนวิชา Attraction Marketing ได้อย่างลึกซึ้งครบทุกรายละเอียด และท่านก็ได้ถ่ายทอดวิชา Attraction Marketing ให้กับนักเรียนของท่านรุ่นแล้ว รุ่นเล่า ซึ่งได้สร้างนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย

ผมอยากจะแบ่งปันให้กับทุกท่านได้ทราบว่าสิ่งที่ผมเรียนรู้จากท่านมานั้น มีอะไรบ้าง เพื่อที่ท่านจะได้พบกับทางออก หรือวิธีการที่ถูกต้องในการทำธุรกิจเครือข่าย หรือธุรกิจออนไลน์ และเกิดผลลัพธ์อย่างที่ท่านยังไม่เคยได้รับมาก่อน

หากคุณเคยได้ยินคำว่า "All managers is personnel managers" คุณทราบหรือไม่ว่าทำไม?? ก็เพราะว่าทุกการจัดการ ทุกแผนก ทุกฝ่าย ล้วนแล้วแต่ต้องทำงานกับผู้คนแทบทั้งสิ้น




นั่นคือเหตุผลว่า หากใครก็ตามที่ต้องการสร้างธุรกิจใดๆ ให้สำเร็จแล้วล่ะก็ เขาผู้นั้นต้องมีความเข้าใจ และพัฒนาตัวเองให้เก่งในเรื่องของ "คน" นั่นเอง

การตลาดในอดีตจะใช้สูตรการทำการตลาดแบบ 4P ซึ่งเริ่มต้นด้วย Products หรือสินค้านั่นเอง โดยที่ผลิตสินค้ามาก่อนแล้วตะโกนออกไปว่าสินค้าของเราดีอย่างนั้น ดีอย่างนี้ ตะโกนบ่อยๆ ตะโกนทุกวัน แล้วผู้คนก็จะถูกสมองสั่งให้จดจำสินค้านั้นๆ จนสุดท้ายก็ต้องเลือกซื้อสินค้านั้นๆ ในที่สุด

แต่ในการตลาดยุค 4.0 มันสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง ผู้ผลิต หรือนักธุรกิจต่างก็หันมาให้ความสนใจกับการตลาดแบบ 4C ซึ่งเริ่มต้นที่ Consumer ที่หมายถึงผู้บริโภคนั่นเอง การตลาดยุคปัจจุบันจะมองหาปัญหาของผู้คน และการแก้ปัญหาของผู้คน และธุรกิจในยุคนี้คือ "การแก้ปัญหาให้ผู้คน" นั่นเอง




นั่นคือคุณต้องรู้จักผู้คน รู้จักความต้องการของผู้คน รู้จักปัญหาของผู้คน และที่สำคัญคือ "การสื่อสารที่ถูกต้องกับผู้คน"

ทำไมล่ะ?
ก็คนไม่ใช่เหรอครับ ที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อสินค้า, บริการที่ท่านต้องการขาย
หรือเข้าร่วมธุรกิจกับท่าน ในกรณีที่ท่านสร้างธุรกิจที่ต้องสปอนเซอร์คนเพื่อสร้างทีม

แล้วท่านทราบหรือไม่ว่า ผู้คนกว่า 90-95% ไม่รู้วิธีสื่อสาร,วิธีพูด, วิธีแสดงออกทางกาย,วิธีโน้มน้าวใจ เพื่อทำให้คนชอบ คนรัก และศรัทธา อยากซื้อสินค้า บริการ หรือเข้าร่วมธุรกิจกับท่าน

โดยธรรมชาติแล้ว มนุษย์แทบทุกคนต่างมีอีโก้ในตัว บางคนอีโก้ต่ำ บางคนอีโก้สูง แตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับการหล่อหลอม เพาะบ่มนิสัยตั้งแต่เด็ก และสิ่งแวดล้อมที่มีอิทธิพลต่อการใช้ชีวิตของบุคคลคนนั้น

คนบางคนนอกจากมีอีโก้สูงแล้ว ยังไม่รู้วิธีสื่อสารที่เวิร์คอีก ผมบอกเลยว่าบุคคลนั้นมีทักษะการสื่อสารที่แย่มากๆ และเชื่อเถอะว่าไม่ว่า คนๆ นั้นจะทำอาชีพอะไร ตำแหน่งหน้าที่การงานสูงแค่ไหน อายุเท่าไหร่ เขาก็ไม่พ้นที่จะถูกคน "เกลียดเข้ากระดูกดำ" อย่างแน่นอน

แต่ที่แย่กว่านั้นคือ คนเหล่านี้ไม่รู้ตัวว่า ผู้คนไม่ชอบเขา!!!
ถ้าเป็นผู้นำในองค์กรใดๆ ก็จะเป็นผู้นำแบบ Unlikable หรือ ผู้คนไม่ชอบขี้หน้าเขานั่นเอง

หรืออีกหนึ่งตัวอย่างคือ คนที่ชอบแสดงตัวว่าฉันเป็นคน "พูดตรง" แล้วคิดว่ามันดูดี ดูจริงใจ สำหรับผมบอกเลยว่า "พูดตรง" มันดีไม่พอหรอก
"คนพูดตรง" ส่วนมากไม่มีใครชอบหรอกครับ ไม่ว่าเขาจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม

ถึงแม้ว่า เขาจะเข้าใจไปเองคิดว่า เขามีคนชอบเยอะ หรือคนอื่นๆชอบคนที่พูดตรง 
ยิ่งพูดตรงมาก แบบไม่มีความเข้าใจว่าพูดยังไงให้คนเป็นพวกเราหรือสนับสนุนเราอย่างจริงใจแล้วล่ะก็ แทบจะฆ่าตัวตายกันหมดเลย เพราะพูดแล้วมีแต่คนไม่ชอบ

ไม่ว่าท่านจะคิดเถียงในใจอย่างไร นี่คือกฎของธรรมชาติที่ใครก็ตามสื่อสารไม่เป็นไม่เข้าใจคน สื่อสารไม่จับใจคนแล้วล่ะก็ เขาจะมีปัญหาในทุกๆด้านของชีวิตเลยทีเดียว

ผู้คนส่วนมาก เวลาอารมณ์ดีๆ ยังพูดจาไม่เข้าหูคน หรือพูดออกไปสะกิดต่อมหรือใจคนให้เขาไม่พอใจตลอด ท่านเคยโดนกับตัวไหม?

แล้วยิ่งเวลาอารมณ์เสีย ยิ่งพูดจาทำร้ายจิตใจคนอื่น
และที่สำคัญกว่านั้นคือ มันทำร้ายตัวเขาเองมากๆๆๆๆๆ โดยที่เขาเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำไป

เพราะผู้คนที่เขาใช้วาจาและปากกล้าของเขาเชือดเฉือนใจคนอื่นนั้น
สิ่งที่เขาจะได้รับแน่นอนกลับมาคือ ผู้คนที่ถูกกระทำจะไม่ชอบเขา จะเหม็นขี้หน้าเขา หรือสุดๆไปเลยก็คือ จะเกลียดเขา ที่อาจรุนแรงขนาดพูดกันครั้งเดียวเกลียดและอาฆาตแค้นไปตลอดชีวิตกันเลยทีเดียว
 
      
หลายคนทนคนเหล่านี้ เพราะต้องการผลประโยชน์ แต่เอาจริงๆแล้ว ไม่มีใครเอา คนที่เอาแต่ด่าว่าคนอื่น เอาแต่วิจารณ์คนอื่น หรือเอาแต่สั่งหรือพูดให้ คนอื่นเสียใจ เจ็บใจหรอกครับ ท่านเองก็ยังไม่ชอบคนแบบนี้เลย จริงไหมครับ?

ผมจะยกตัวอย่างในการสร้างการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ และเกิดผลลัพธ์ที่ต่างกันให้ดูนะครับ
ร้านก๋วยเตี๋ยว 2 ร้านตั้งอยู่ไม่ห่างกันมากนัก และทั้ง 2 ร้านต่างก็ใช้การสื่อสารที่ต่างกัน ทำให้เกิดผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน

แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวร้านที่ 1 ชื่อ "หงิกงอ"
เธอชอบทำหน้าบูดหน้างอ เจ้าอารมณ์ พูดจาห้วนๆไม่มีเสน่ห์ 
ขี้เกียจและไม่ใส่ใจในความต้องการของลูกค้า
รับเงินไม่เคยขอบคุณ ลูกค้าเข้าร้านไม่เคยทักทาย ลูกค้าออกจากร้านไม่เคยขอให้กลับมาใช้บริการอีก
แม้ค้าแบบนี้ ท่านเคยเจอใช่ไหม? ท่านคิดว่าแม่ค้าคนนี้จะขายดีมั้ยครับ?

แม่ค้าขายก๋วยเตี๋ยวอีกร้านหนึ่งชื่อ "เพลินใจ"
ลูกค้าเข้าร้านมา เธอเดินเข้าใส่ ยิ้มแย้มแจ่มใส พูดจาน่าฟัง ทักทาย โอภาปราศัย จริงจังและจริงใจในการเอาใจใส่ในความต้องการของลูกค้า
ลูกค้าชอบทานแบบไหนเธอจำได้หมดเสิร์ฟเสร็จ ก็มาทักทายคุยสัพเพเหระ
และคุยแต่ "เรื่องของลูกค้า" เพราะเธอจะรู้หรือไม่รู้ก็ตามว่าถ้าเธอเปิดโอกาสให้ผู้คน"ได้พูดเรื่องของตัวเขาเองมากๆ" เขาเหล่านั้นจะชอบเธออัตโนมัติ

คนส่วนมากชอบพูดแต่เรื่องตัวเอง ซึ่งมันเป็นสิ่งที่น่าเบื่อที่สุดในการสนทนากับคนอื่น ไม่มีใครสามารถนั่งทนฟังเรื่องของคนอื่นตลอดเวลาได้นานเท่าไหร่หรอก
ท่านก็ไม่อยากฟัง จริงไหมครับ?

นี่ไง!  ที่ลูกค้ารู้สึกสำคัญ และชอบแม่ค้าคนนี้แบบอัตโนมัติโดยไม่รู้ตัวขึ้นมาทันที เพราะเธอใส่ใจที่จะทำให้ลูกค้า"รู้สึกสำคัญ" ด้วยการพูดถึงถามถึง
แต่เรื่องของลูกค้า ฉาย Spotlight ไปที่ลูกค้า ไม่ใช่ฉายมาที่ตัวเอง
เหมือนที่คนแทบทุกคนทำกัน และเปิดโอกาสให้ลูกค้าได้พูดเรื่องที่เค้าอยากจะพูดแล้วก็รับฟังเป็นหลัก ท่านคิดว่าแม่ค้าคนนี้จะมียอดขายเป็นยังไง?

ครั้งต่อไป ลูกค้าจะเข้าไปทานก๋วยเตี๋ยวร้านไหน?
ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าต้องเป็นร้านเพลินใจอย่างแน่นอน ทำไมน่ะเหรอครับ?
ก็มันเป็นธรรมชาติของมนุษย์เราทุกคนไง

เพลินใจเธอเข้าใจคนพร้อมที่จะทำเพื่อให้คนอื่นชอบเธอ รักเธอ ถึงแม้ว่า บางครั้งเธอก็ไม่ได้อารมณ์ดีตลอดเวลาหรอกจริงไหม แต่เธอพร้อม!!!
นี่ตัวอย่างง่ายๆ เห็นกันชัดๆว่าถ้าไม่เข้าใจเรื่อง "คน" ว่าลูกค้าต้องการอะไร อย่างไร แค่ไหน ทำไม เมื่อไหร่ เพื่ออะไร จบครับจบ จบทุกด้านของชีวิต

เพราะถ้าเรามีการสื่อสารที่แย่  มันจะแย่ในทุกด้านของชีวิตด้วย
ครอบครัว คนรัก เพื่อน เพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง หุ้นส่วน

ท่านเคยสงสัยไหมว่า ทำไมคนบางคนไม่ก้าวหน้าไปไหน
ขณะที่อีกคน วิ่งฉิวไปไกลแบบวิ่งยังไงก็ตามไม่ทัน
ก็เพราะคนที่ไม่เข้าใจคนหรือลูกค้า สู้คนที่เข้าใจคนและลูกค้าดีไม่ได้หรอก!

ในการสปอนเซอร์คนเข้าร่วมธุรกิจเพื่อสร้างทีมเหมือนกัน
คนทั่วไปมากกว่า 95% ไม่รู้และไม่เข้าใจว่าทำไมเวลาชวนใคร ก็โดนปฏิเสธตลอด
ทำไม คนที่เราชวนไม่อยากรวยหรือยังไง จงจนต่อไปละกัน 
นี่! ส่วนมากก็ว่าผู้มุ่งหวังกันอีก 



นี่เป็นเพียงส่วนเสี้ยวหนึ่งที่เกือบทุกท่านจะต้องพบในการทำธุรกิจเครือข่ายอย่างแน่นอน ขึ้นอยู่กับว่า แต่ละท่านมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร เป็นการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนหรือไม่ และถ่ายทอดกันมาอย่างไร




แต่สำหรับผมแล้ว ผมได้เรียนรู้ "ความลับ" ของการสื่อสาร รวมถึงทำความเข้าใจ และจัดการกับเรื่องของ "คน" แล้ว มันเป็นวิชาที่ว่าด้วยทักษะในเรื่องการเป็นเลิศในการสื่อสารเป็นสิ่งที่ไม่มีใครสอนในโรงเรียน ถ้าอยากจะเรียน ต้องไปเรียนรู้ จากผู้รู้ที่เขียนหนังสือหรือทำสถาบันออกมาให้บริการคนอย่างหนังสือของ เดล คาร์เนกี้ ที่ชื่อว่า "วิธีชนะมิตรและจูงใจคน" เป็นต้น




หากท่านต้องการเรียนรู้สุดยอดวิชา ที่สามารถบอก "ความลับ"ในการทำธุรกิจเครือข่าย วิชาที่จะทำให้ท่านเป็นสุดยอดนักสื่อสาร และเป็นสุดยอดนักธุรกิจ ที่เป็นเลิศในการใช้เทคโนโลยีช่วยในการ "สื่อสารที่จับใจ" ออกไปให้กับคนเป็นพันเป็นหมื่นเป็นแสนหรือล้านได้ รู้จัก รักชอบ และศรัทธาในตัวท่าน!


ติดตามบทความดีๆ ในเรื่องการทำตลาดบนโลกออนไลน์ได้ที่นี่

ผมจะทยอยส่งบทความเรื่องที่เกี่ยวกับ network marketing เพื่อที่จะสร้าง Network Marketing Runway เพื่อให้เป็นเส้นทางในการทำตลาดแบบ Network Marketing ให้ประสบความสำเร็จให้กับทุกท่านเรื่อยๆ นะครับ


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

EP 2 : KNOW.. LIKE.. TRUST... (การทำธุรกิจก็ไม่ต่างอะไรจากการจีบสาว)

ขายขั้นเทพ ตอนที่ 2