ขายขั้นเทพ!!!


ผมพบเคล็ดลับสุดยอดการขายโดยบังเอิญ

“พี่ครับ บอสขออนุญาตแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ดีมากให้พี่รับฟัง พี่พอจะมีเวลาสักครู่มั๊ยครับ?” น้องผู้ชายตัวสูง ท้วม ผิวสองสีคนหนึ่ง เอ่ยปากทักผมระหว่างที่ผมแวะเข้าปั๊มน้ำมันเพื่อทำธุรกิจส่วนตัว
“ไม่เป็นไรครับ..น้อง” ผมตอบไปอย่างนั้น เพราะไม่คิดว่าจะเข้าไปฟังอยู่แล้ว
“ตามสบายครับพี่.. เดี๋ยวเสร็จธุระแล้ว บอสขออนุญาตคุณพี่อีกครั้งนะครับ น้องก็ตอบกลับมาแบบไม่ได้กดดันอะไร ฟังดูสบายๆ.. แล้วผมก็เดินผ่านไปเข้าห้องน้ำทำธุระ
“สวัสดีครับคุณพี่.. รถของคุณพี่สีดำคันนั้นใช่มั๊ยครับ?” น้องพูดพร้อมผายมือไปที่รถของผม (ช่างสังเกตจริงๆ แฮะ) “ไม่เป็นไรครับน้อง.. พี่รีบ” แต่ก็เดินเข้า 7-11 ในปั๊มต่อ เพื่อซื้อของกินกระจุ๊กกระจิ๊กระหว่างทาง
พอเสร็จสรรพ ผมก็เดินกลับไปที่รถพร้อมขนมเต็มมือ “คุณพี่น่าจะรีบมากจริงๆ นะครับ และคงจะหิวด้วย ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพนะครับ ถ้ามีโอกาสน้องบอสคงจะได้มีโอกาสรับใช้พี่นะครับ... สวัสดีครับ”

ผมไม่ได้ซื้อสินค้าอะไรของน้องบอสเลย.... แต่น้องบอสได้ซื้อ “ใจ” ผมและภรรยาไปแล้วครับ

ผมยังนึกเสียดายที่ไม่ได้มีเวลาคุยกับน้องต่อ หรือแม้แต่จะขอเบอร์น้องไว้ แต่ก็ปากหนัก (เพราะความรีบไปทำธุระ) ก็เลยได้แต่เสียดาย ว่าน่าจะได้สร้างสัมพันธ์กับน้องบอสต่อไป
คุณเองก็คงจะเคยเหตุการณ์แบบผมเช่นกันใช่หรือไม่?? ผมรู้สึกว่านี่มันคือ “การขายขั้นเทพ” ชัดๆ เลย จะด้วยความบังเอิญหรือไม่ก็ตามแต่ ผมได้ค้นพบว่าแม้แต่ “เทพเจ้าแห่งการขายของประเทศญี่ปุ่น” ต่างก็ใช้หลักการนี้ เคล็ดลับดังกล่าวมีอยู่ 3 ข้อคือ
  • การ “ให้” หรือ “การแสดงความรัก”
  • การทำให้ “เสมือนเป็นเรื่องธรรมดา”
  • และ การสร้าง “ความรู้สึกไม่ยอมแพ้”
ซึ่งในวันนี้ผมจะขอกล่าวเฉพาะเรื่องของการ “ให้” ก่อนก็แล้วกันนะครับ

“หากความสัมพันธ์กับ “ผู้คน” เป็นไปได้อย่างราบรื่น คนเราก็จะพอใจกับชีวิต

คุณลองสังเกตชีวิตประจำวันของคุณดูซิครับว่า ในหนึ่งวันคุณต้องเจอกับใครบ้างในชีวิต ตื่นเช้ามาต้องเจอกับคนในครอบครัว เมื่อถึงที่ทำงานก็เจอทั้งเพื่อนร่วมงาน เจ้านาย ลูกน้อง พอเวลากลางวันก็ต้องออกไปทานข้าว ได้เจอกับพ่อค้า แม่ค้า บ่ายๆ ก็อาจจะเจอกับ Suppliers ซึ่งเป็นคนแปลกหน้า ตกเย็นมีนัดทานข้าวกับเพื่อนๆ ฯลฯ
ซึ่งหากความสัมพันธ์ของคุณกับผู้คนเหล่านี้เป็นไปอย่างราบรื่น คุณก็จะรู้สึกดีไปทั้งวัน และในทางตรงกันข้าม หากคุณมีปัญหากับใครบางคน หรือทะเลาะกับใคร คุณจะรู้สึกแย่ ทำไมวันนี้จึงเป็นวันที่แย่ และเซ็งแบบนี้ “ทำไมฉันต้องเจอคนแบบนี้ด้วย??” “ทำไม แกถึงงี่เง่ากับฉันจังเลยวันนี้ มีงานอะไรก็ไปทำซะเถอะ” “จะบ่นทำไมนักเนี่ย?? ทำไมไม่เคยถามความจริงอะไรก่อนเลย??” และอีกหลายๆ คำถามที่เกิดกับตัวเองในวันแย่ๆ คุณเคยเป็นแบบนี้ใช่มั๊ยครับ??
ในความสัมพันธ์ที่มีต่อบุคคลเหล่านี้ คุณคิดว่าฝ่ายไหนสำคัญกว่ากัน? คุณ หรืออีกฝ่ายหนึ่ง?เกือบร้อยทั้งร้อย ต่างก็ตอบว่า “ตัวฉันนี่แหละ” นั่นก็เพราะว่ามนุษย์เห็นตัวเองสำคัญกว่าคนอื่นเสมอ มนุษย์เราอยากให้ตัวเองมีความสุข มากกว่าอยากให้คนอื่นมีความสุข แต่สิ่งที่คุณทำมันกลับตรงกันข้ามซะอย่างนั้น เพราะคนอื่นทำอะไรก็ไม่ถูกใจ ไม่ถูกต้อง ขัดใจเสียจริงๆ แล้วจะมีวิธีใดที่ทำให้คุณ “ม่ีความสุขที่แท้จริง” ได้ล่ะครับ
มีกฏที่เป็นความจริงของทุกสิ่ง ทุกอย่างในโลกนี้คือ “การให้ และการรับ” สิ่งที่เราทำให้คนอื่น จะสะท้อนกลับคืนมาที่ตัวเรา นี่คือกฏเหล็กของโลกใบนี้ครับ
หากเรายิ้มให้ใคร เชื่อเถอะว่า 99% เขาต้องยิ้มตอบกลับมาให้คุณโดยอัตโนมัติ มันเป็นสิ่งง่ายๆ ที่ไม่ต้องใช้เทคนิคอะไรเลย ถ้าเรา “ชอบ” ใคร เขาจะรับรู้ได้ แล้วรู้สึก “พอใจ” กับเราอย่างแน่นอน ถ้าเรา “เกลียด” ใคร เขาก็จะรับรู้ได้เช่นกัน
เพราะฉะนั้น ถ้าเราอยากมีความสุข จงให้ความสุขแก่ผู้คน โดยการสร้างสัมพันธ์ที่ดี หรือการ “คิดบวก” นั่นเอง
นโปเลียน ฮิลล์ นักเขียนชาวอเมริกัน ผู้ที่เขียนหนังสือ Think and Grow Rich มียอดขายประมาณ 70 ล้านเล่มทั่วโลก ซึ่งจัดว่าเป็นหนังสือขายดีตลอดกาลเล่มหนึ่ง ใช้เวลา 20 ปีในการทำงานโดยไม่ได้ผลตอบแทนอะไรเลย หาข้อมูลเขียนหนังสือที่มอบคุณค่าให้แก่ผู้คนทั้งโลก
นโปเลียน ฮิลล์ ใช้เวลา 20 ปีในการทำงานโดยไม่ได้ผลตอบแทนอะไรเลย

หากคุณ “ขาย” โดยปราศจากการ “ให้” คุณจะไม่มีวันได้ลูกค้า

เวลาขายของให้นึกถึงประโยชน์ที่ “ลูกค้า” จะได้รับเป็นอันดับแรก อย่าปล่อยให้ความคิดละโมบ ความคิดที่ “อยากจะขายให้ได้” เข้าครอบงำโดยเด็ดขาด เพราะเมื่อคุณถูกปฏิเสธ คุณจะไม่รู้สึกแย่เลย แต่ในทางตรงกันข้าม คุณจะรู้สึก “เสียใจ” ที่ไม่สามารถทำให้ลูกค้าได้รับสิ่งดีๆ ที่คุณนำเสนอได้ เพราะคุณมาเพื่อตัวเขา ไม่ใช่เพื่อตัวคุณ
และนอกจากนี้ หากคุณม่ีองค์กร คนในองค์กรของคุณก็จะเก่งขึ้นด้วย เพราะจุดมุ่งหมายของคุณคือการที่จะสนับสนุนให้ลูกน้องของคุณ องค์กรของคุณประสบความสำเร็จ หากคุณทำให้คนในองค์กรของคุณสำเร็จได้ยิ่งมากเท่าไหร่ นั่นก็หมายความว่าคุณประสบความสำเร็จมากขึ้นเท่านั้น
สำหรับอีก 2 เรื่อง ผมจะมานำเสนอให้กับเพื่อนๆ ได้ทราบในบทความต่อไปนะครับ และหากใครชอบบทความ หรือคิดว่าเป็นบทความที่มีประโยชน์ ก็ช่วย Comment กด Like และกด Share ให้ผมด้วยนะครับ หรือหากต้องการจะทักทาย พูดคุย หรือมีข้อเสนอ ข้อชี้แนะสามารถติดต่อผมได้ทาง Inbox นี้ หรือ https://line.me/R/ti/p/%40saenmaster ได้เลยนะครับ
แล้วอีกไม่นานนี้ ผมจะเพิ่มช่องทางในการติดต่อ พูดคุยกับเพื่อนๆ ด้วยเครื่องมือที่ผมจะเตรียมไว้สำหรับการทำงาน Home Base Business แบบเต็มรูปแบบต่อไปครับ

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

EP 2 : KNOW.. LIKE.. TRUST... (การทำธุรกิจก็ไม่ต่างอะไรจากการจีบสาว)

ขายขั้นเทพ ตอนที่ 2